เข้าสู่ระบบ

ในครูซิเบิล มาตรการรักษาความปลอดภัยหละหลวม

ในครูซิเบิล มาตรการรักษาความปลอดภัยหละหลวม จนเกิดเหตุวุ่นวาย

โดยการแข่งขัน ในครูซิเบิล เป็นไปตามปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผ่านไปราว ๆ 20 นาที ได้มีบุคคลนิรนาม 2 คน ซึ่งเป็นชาย 1 และหญิง 1 ก่อเหตุอุกอาจวิ่งลงมายังโต๊ะแข่งขัน ผู้ก่อเหตุที่เป็นผู้ชายได้ปีนขึ้นไปบนโต๊ะที่1ระหว่างที่มิลกินส์ กับเพอร์รี่ กำลังดวลคิวกันอยู่ แล้วได้โปรยผงสีส้มไปทั่วโต๊ะส่วนผู้ก่อเหตุ ที่เป็นผู้หญิงพยายามจะปีนขึ้นโต๊ะที่ 2 เช่นกัน แต่ไม่ทันได้โปรยผงสีส้ม เนื่องจากโอลิวิเยร์ มาร์ติล ผู้ตัดสินชาวเบลเยียมสามารถล็อคตัวได้ทัน

ในครูซิเบิล

มีบุคคลนิรนาม 2 คน ก่อเหตุความวุ่นวายในการแข่งขันสนุกเกอร์ ในครูซิเบิล ทำให้ต้องยุติการแข่งขันชั่วคราว

หลังจากเกิดเหตุไม่คาดฝันในครั้งนี้ ได้ทำให้แฟนสนุกเกอร์ ที่อยู่ในครูซิเบิลเธียร์เตอร์ และที่กำลังดูถ่ายทอดสดไปทั่วโลก ต่างตกตะลึงไปตาม ๆ กัน พร้อมกับทำให้การแข่งขันทั้ง 2 แมตช์ต้องยุติชั่วคราว ขณะที่ผู้ก่อเหตุทั้งสอง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวทันทีในเวลา 19.30 น. ตามเวลาที่อังกฤษ (ตี 1.30 น.ตามเวลาประเทศไทย)

ทราบในภายหลังว่าทั้งคู่คือนักกิจกรรม ที่ต่อต้านโครงการการผลิตน้ำมันจากฟอสซิล ของรัฐบาลสหราชอาณาจักร ซึ่งทั้งสองได้พยายามต่อต้านทางโซเชี่ยล มีเดียมาโดยตลอด พร้อมกับเรียกร้องให้องค์กรกีฬาในสหราชอาณาจักร (อังกฤษ, สกอตแลนด์, เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ) แสดงจุดยืนด้วยการร่วมต่อต้าน โครงการนี้ไปกับพวกเขาด้วย แต่ก็ยังไม่มีองค์กรกีฬาใดให้ความร่วมมือ

กระทั่งนักกิจกรรมทั้งสอง ได้ก่อเหตุอุกอาจในครั้งนี้ พร้อมกับเกิดคำถามขึ้นมาว่า ฝ่ายจัดการแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก ปล่อยให้บุคลที่ไม่เกี่ยวข้อง ลงไปถึงโต๊ะแข่งขันได้อย่างไร เหตุไฉนมาตรการรักษาความปลอดภัยถึงหละหลวมอย่างง่ายดายเยี่ยงนี้

ยิ่งโรงละครครูซิเบิล เป็นฮอลล์แข่งขันที่ผู้ชมใกล้ชิดติดกับนักกีฬา และโต๊ะแข่งเพียงไม่กี่เมตร ฝ่ายจัดต้องตระหนักถึง มาตรการรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้นกว่ารายการอื่น โชคดีที่เหตุการณ์นี้ ผู้ก่อเหตุต้องการแสดงจุดยืนทางการเมืองเท่านั้น มิได้ลงมาทำร้ายนักกีฬาแต่อย่างใด

ลองคิดดูว่าถ้าผู้ก่อเหตุเจตนาลงมาทำร้ายนักกีฬา แล้วนักกีฬาได้รับบาดเจ็บขึ้นมา หรือถึงขั้นเสียชีวิต มันจะกลายเป็นโศกนาฏกรรม ที่เป็นตราบาปแห่งวงการคิวโลกไปชั่วกัปชั่วกัลป์ทันที เชื่อว่าแฟนกีฬารุ่นเดอะคงจะจำกันได้ ราว ๆ 30 ปีก่อน ในระหว่างการแข่งขันเทนนิสหญิง WTA Hamburg หรือรายการซิติเซน คัพ ที่เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 30 เมษายนปี 1993 กุนเธอร์ ปาร์เช่ ชายสติไม่สมประกอบชาวเยอรมัน ได้วิ่งถือมีดทำครัวขนาด 9 นิ้ว ลงไปแทงข้างหลังโมนิก้า เซเลซ นักหวดหญิงมือ 1 ของโลกในเวลานั้น ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่อยากเห็นเซเลซ ประสบความสำเร็จเกินไป เนื่องจากเขาเป็นแฟนคลับตัวยงของสเตฟฟี่ กราฟฟ์ นักหวดหญิงชาวเยอรมัน ที่เป็นคู่แข่งตัวฉกาจของเซเลซ ในยุคนั้น

ผลที่ตามมาก็คือเซเลซ ต้องหายจากวงการเทนนิสไปนานถึง 2 ปี แผลด้านหลังที่โดนแทงรักษาแค่ 1 เดือนก็หายเป็นปกติแผลในใจ จากการถูกทำร้ายหมายเอาชีวิตในครั้งนี้ มันทำให้เธอต้องใช้เวลาเยียวยา รักษาแผลใจนานถึง 2 ปี กว่าจะกลับมาแข่งขันอีกครั้งได้ แม้จะกลับมาได้ แต่เธอก็ไม่เคยกลับขึ้นไปอยู่ในจุดสูงสุดได้อีกเลย เรียกได้ว่าหากไม่มีเหตุการณ์อุกอาจในครั้งนั้น เธออาจประสบความสำเร็จในวงการลูกสักหลาดได้มากกว่านี้

กลับมาที่เรื่องอื้อฉาวในสนุกเกอร์โลกอีกครั้ง นับว่ายังดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการณ์บุกไปโปรยผงสีส้มบนโต๊ะแข่งขัน ก็ทำให้เกิดเหตุวุ่นตามมาอีกหลายเรื่อง เริ่มจากคู่ระหว่างโรเบิร์ต มิลกินส์ กับโจ เพอร์รี่ ต้องถูกยกเลิกกลางคัน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ต้องเปลี่ยนผ้าสักหลาดในโต๊ะที่ 1 โดยมิลกินส์ – เพอร์รี่ ถูกเลื่อนไปดวลคิวกันในเซสชั่นแรก ช่วงตี 1 ของคืนวันอังคารที่ 18 เมษายน ส่วนเซสชั่น 2 จะแข่งขันในเวลา 15.30 น.ของวันพฤหัสบดีที่ 20 เมษายน ตามเวลาประเทศไทย

ในครูซิเบิล

ติดตาม โปรแกรมสนุกเกอร์ ข่าวสารสนุกเกอร์ รวดเร็วก่อนใครได้ที่ @SPORTS7M

@SK7M
LINE : @SK7M