ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ตำนานสอยคิวไทย เพิ่งกลับจากคว้าทองซีเกมส์ โดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เล่นงาน หมดไป 3.2 ล้านบาท ทั้งตัวเหลือเงินสดแค่ 8 พันบาท แจ้งตำรวจแล้ว ทำใจไม่รู้ได้คืนหรือไม่ แต่อยากเป็นอุทธาหรณ์ ไม่อายที่มาเปิดเผย
ตำนานสอยคิวไทย เปิดใจว่า ก่อนไปแข่งขันซีเกมส์ที่กัมพูชา ตนซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้าน วงเงินบัตรเครดิต 1 แสนบาท ใช้ไป 5-6 หมื่นบาท จากนั้นจะใช้อีกปรากฏว่าเต็มวงเงินก็แปลกใจ แต่คิดว่าไปแข่งซีเกมส์ก่อน กลับมาไทยค่อยมาจัดการ หลังจากได้เหรียญทองกลับมาแล้ว เหตุเกิดวันที่ 16 พ.ค.66 ตั้งแต่ราว 11.00 น. มีผู้หญิงโทรมาถามว่าใช่ วัฒนา ภู่โอบอ้อม หรือไม่แล้วบอกว่าตนติดหนี้ 8.9 หมื่นบาท ตนยืนยันไม่เคยติดหนี้ แล้วถามว่าเคยไป จ.นครสวรรค์ หรือไม่ตนบอกว่า ไม่ไป 5-6 ปี แล้วทางนั้นให้ติดต่อ สภ.เมืองนครสวรรค์ ตนบอกไปไม่ได้ติดแข่งจึงให้ต่อสายไป สภ.เมืองนครสวรรค์ ผู้แอบอ้างเป็นตำรวจมารับช่วงคุยแล้วให้รอ 10 นาที
ต๋องกล่าวต่อไปว่า ต่อมาทางผู้ที่แอบอ้างว่าเป็นตำรวจ บอกว่าตนเองพัวพันยาเสพติด ฟอกเงิน ตนสงสัยว่าตำรวจจริงหรือไม่ บุคคลดังกล่าวส่งบัตรประจำตัวให้ดูเป็นยศ พันตำรวจเอกแล้วให้เปลี่ยนมาคุยวิดีโอคอล ทางนั้นถามว่าเปิดบัญชีที่จันทบุรีหรือไม่แล้วบอกว่า 2 สัปดาห์ก่อน จับพ่อค้ายาเสพติด ชื่อสัญญา แซ่ลี้ อ้างว่าซื้อบุ๊คแบงค์จากตน 5 หมื่นบาท
แล้วต๋องได้เงินเปอร์เซ็นต์จากการลำเลียงยาเสพติด 10 เปอร์เซ็นต์ 8.5 แสนบาท ตนบอกไม่รู้จักจากนั้นทางผู้ที่แอบอ้างเป็นตำรวจ บอกว่าถ้าอย่างนั้นต้องแสดงความบริสุทธิ์ เช็คเส้นทางการเงิน ถามว่ามีเงินฝากกี่แห่งตนบอก 5 แห่ง ธ.กรุงไทย, ธ.กรุงเทพ, ธ.กสิกรไทย, ธ.ไทยพาณิชย์, ธ.กรุงศรีอยุธยา แล้วก็เริ่มให้โอนเงิน เพื่อเช็คเส้นทางพร้อมขู่ว่าตอนนี้ชื่อไปอยู่ชั้นศาลแล้ว ถ้าไม่ให้ความร่วมมืออาจถูกจำคุก 1 ปี 6 เดือน
จนจิตตกกลัวโอนไปเรื่อยๆ คิดว่าไม่มีปัญหา เพราะเห็นบัตรว่าเป็นตำรวจจริง โอนไปจนเรื่อย ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ยืมแม่มาอีก 2 แสนบาท ตอนนั้นอยู่โต๊ะสนุกเกอร์ทีบีซี สนุกเกอร์ เตรียมซ้อมจนเพื่อนนักสนุกเกอร์เอะใจ มาแย่งโทรศัพท์ไป แล้วด่าใส่โทรศัพท์ก่อนวางสายไปสรุปแล้วโอนไป 10 รายการ
โอนจนแบตเตอร์รี่โทรศัพท์แทบหมด หมดไป 3.2 ล้านบาท เงินสดทั้งตัวเหลือ 8 พันบาทเศษๆ เท่านั้นเพราะเงินที่ได้มาส่วนใหญ่แปรทรัพย์สินไปซื้อที่ดิน เขารู้ข้อมูลหมดทุกอย่าง มาถามว่ามีที่ดินที่ไหน ที่จันทบุรีมีเท่าไหร่ บ้านเมืองนอกมีไหม ผมระวังตัวมาตลอดไม่คิดเลยว่าจะเจออยากเป็นอุทธาหรณ์เตือนใจ อยากเตือนให้ทุกคนรู้ว่ามันอันตรายจริงๆ ผมไม่อายที่เปิดเรื่องนี้ขึ้นมา
ต๋องกล่าวด้วยว่าไปแจ้งความที่ สน.วังทองหลางไว้แล้วก็ไม่รู้ว่าจะทันหรือไม่ทัน แล้วแต่บุญแต่กรรมไปสถานีตำรวจ 3 รอบแล้ว เหนื่อยมาก วันที่ 19 พ.ค. 66 มีแข่ง ไม่มีแก่ใจตอนนี้ไม่กล้ารับสายใครแล้ว สำหรับเหรียญทองซีเกมส์ ที่ต๋องได้มานั้น จะได้เงินอัดฉีดจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ 3 แสนบาท